การศึกษาการเสื่อมสภาพของระบบภูมิคุ้มกันในประชากรญี่ปุ่นเพศชาย VS เพศหญิง

ฮอร์โมนเพศ (Sex hormones) เป็นปัจจัยที่มีผลต่อทั้งการตอบสนองทางร่างกายและทางภูมิคุ้มกัน และเอสโตรเจน (Estrogen) เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดลักษณะที่แตกต่างกันทางระบบภูมิคุ้มกันได้

วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาว่าอายุที่เปลี่ยนแปลงไปและเพศมีผลต่อการความแตกต่างของจำนวนและการทำหน้าที่ของลิมโฟไซต์ที่ส่วนปลาย (Peripheral blood lymphocytes) หรือไม่ โดยทำการศึกษาในอาสาสมัครเพศชายสุขภาพดีจำนวน 162 คน และเพศหญิงสุขภาพดีจำนวน 194 คน อายุ 20 – 90 ปี ผลจากการศึกษาพบว่าอายุมีความสัมพันธ์กับการลดลงของภูมิคุ้มกัน โดยพบว่าผู้หญิงจะลดน้อยลงกว่าผู้ชาย และนี่อาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผู้หญิงมีอายุยืนยาวกว่าผู้ชายในญี่ปุ่น จากการศึกษาแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้

อายุกับการเปลี่ยนแปลงของเม็ดเลือดแดง (RBCs) และเม็ดเลือดขาว (WBCs)

ตัวแปรหน้าที่เพศชายเพศหญิงเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างเพศ
เม็ดเลือดแดง (RBCs)*,**นำออกซิเจนส่งไปยังเซลล์ต่าง ๆลดลงไม่ลดลงแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ
เม็ดเลือดขาว (WBCs)*ต่อต้านหรือทำลายเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายลดลงลดลงไม่แตกต่างกัน
ลิมโฟไซต์ (Lymphocytes)*,***T cells และ B cellsมีแนวโน้มลดลงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ
นิวโทรฟิล (Neutrophils)*ทำลายสิ่งแปลกปลอม โดยเฉพาะแบคทีเรียลดลงลดลงไม่แตกต่างกัน

*จำนวน/ลูกบาศก์มิลลิเมตร

**จากการศึกษาระดับของเม็ดเลือดแดง (RBCs) ในคนอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป พบว่าระดับเม็ดเลือดแดงของเพศชายสูงกว่าเพศหญิงอย่างมีนัยสำคัญ

***จากการศึกษาพบว่าในช่วงวันรุ่นเพศชายจะมีจำนวนลิมโฟไซต์ (Lymphocytes) สูงกว่าเพศหญิง แต่เมื่ออายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป จำนวน T cells จะใกล้เคียงกันทั้งในเพศชายและเพศหญิง

อายุกับตัวแปรทางระบบภูมิคุ้มกัน (Immunological parameters) ที่ลดลง

ตัวแปรหน้าที่เพศชายเพศหญิงเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างเพศ
T Cells*ตอบสนองทางด้านเซลล์ เพื่อกำจัดสิ่งแปลกปลอมหรือจุลชีพลดลงมีแนวโน้มลดลงเพศชายลดมากกว่าเพศหญิง
CD8+ T cells*ทำลายเซลล์ที่ผิดปกติหรือที่ติดเชื้อจุลชีพลดลงลดลงไม่แตกต่างกัน
CD8+CD28+ T cells*เกี่ยวข้องกับการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันลดลงลดลงเพศชายลดมากกว่าเพศหญิง
Naïve T cells*T cells ที่ยังไม่เคยพบแอนติเจนมาก่อนมีแนวโน้มลดลงมีแนวโน้มลดลงเพศชายลดมากกว่าเพศหญิง อย่างมีนัยสำคัญ
T cell proliferative activity**การเพิ่มจำนวนของ T cellsลดลงลดลงไม่ได้ทำการศึกษา
T cells proliferation index (TCPI)**เป็นค่าที่คำนวณมาจากการเพิ่มจำนวนของ T cellsลดลงลดลงเพศชายลดมากกว่าเพศหญิง
T cells immune scoreเป็นค่าที่ได้มาจากการคำนวณ 5 ตัวแปรทางภูมิคุ้มกันที่มีความสัมพันธ์กับ T cellsลดลงลดลงเพศชายลดมากกว่าเพศหญิง
B cells*ผลิตภูมิคุ้มกันชนิสารน้ำที่เรียกว่า แอนติเจนลดลงมีแนวโน้มลดลงแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ

*จำนวน/ลูกบาศก์มิลลิเมตร**อายุที่มากขึ้นมีความสัมพันธ์กับการลดลงของ T cell proliferative activity และTCPI ซึ่ง TCPI เป็นค่าที่คำนวณมาจากT cell proliferative activity จากการศึกษาพบว่าในเพศชายมีค่าลดลงมากกว่าในเพศหญิง การที่อัตราการลดลงของค่า TCPI น้อย เป็นตัวบ่งชี้ว่าการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในผู้สูงอายุเพศหญิงดีกว่าเพศชาย อาจจะเป็นข้อเท็จจริงที่ว่าเพศหญิงมีอายุยืนกว่าเพศชาย โดยอายุเฉลี่ยของประชากรในประเทศญี่ปุ่นเพศหญิงประมาณ 85.5 ปี และเพศชาย 79.0 ปี ห่างกันโดยประมาณ 6 ปี ซึ่งทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่าความแตกต่างนี้ทำให้เกิดความแตกต่างทางอายุชีวภาพ (Biological age) ของเพศชายและเพศหญิงหรือไม่ จึงได้มีการศึกษาเปรียบเทียบตัวแปรทางระบบภูมิคุ้มกัน (Immunological parameters), T cell immune score ระหว่างกลุ่มเพศชายที่มีอายุต่ำกว่าเพศหญิง 6 ปี โดยไม่รวมเพศชายที่อายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไป และเพศหญิงที่มีอายุต่ำกว่า 33 ปี อายุเฉลี่ยของเพศชายอยู่ที่ 48.2 ปี และเพศหญิงอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 54.7 ปี ผลจากการศึกษาพบว่าความแตกต่างของอายุขัย (Life expectancy) ระหว่างเพศชายและเพศหญิงอาจจะเกิดจากความแตกต่างทางอายุชีวภาพ (Biological age) และตัวแปรทางระบบภูมิคุ้มกัน (Immunological parameters) อาจจะใช้เป็นตัวบ่งชี้ของอายุชีวภาพ (Biological age) ได้

อายุกับตัวแปรทางระบบภูมิคุ้มกัน (Immunological parameters) ที่เพิ่มขึ้น

ตัวแปรหน้าที่เพศชายเพศหญิงเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างเพศ
CD4+ T cells*ส่งเสริมเรียกเซลล์เม็ดเลือดขาวอื่น ๆไม่เปลี่ยนแปลงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
CD4/CD8 ratioเป็นค่าที่บ่งบอกถึงสภาวะของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ถ้ามากกว่า 2 แสดงว่าร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ดี แต่ถ้าน้อยกว่า 1 แสดงว่าร่างการอาจจะมีภาวะผิดปกติเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นเพศชายเพิ่มขึ้นมากกว่าเพศหญิงอย่างมีนัยสำคัญ
Memory T cells*เซลล์หน่วยความจำ สามารถตอบสนองแอนติเจนที่ร่างกายสัมผัสมมาแล้วอย่างรวดเร็วมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นเพศชายเพิ่มขึ้นมากกว่าเพศหญิงอย่างมีนัยสำคัญ
CD4+CD25+ T cells*ควบคุมการทำงานของ T cellsมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นไม่ได้ทำการศึกษา
NK cells*ทำลายเซลล์มะเร็ง และเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นเพศชายเพิ่มขึ้นมากกว่าเพศหญิงอย่างมีนัยสำคัญ

*จำนวน/ลูกบาศก์มิลลิเมตร

การสร้างไซโตไคน์ (Cytokine production)

ไซโตไคน์เป็นโปรตีนที่สร้างจากเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน เพื่อสื่อสารกันระหว่างเซลล์ ไซโตไคน์ที่สร้างจาก T cells และ B cells ได้แก่ interleukin (IL) และ interferon (IFN) โดยไซโตไคน์ที่หลั่งออกมาอาจทำหน้าที่เรียกเซลล์เม็ดเลือดขาวให้มารวมกันที่ตำแหน่งที่มีสิ่งแปลกปลอม กระตุ้นการเพิ่มจำนวนเซลล์ ทำให้เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันมีการเปลี่ยนแปลงและทำลายเซลล์ จากการศึกษาพบว่าการสร้างไซโตไคน์ทั้งประเภท Th-1 (IFNγ และ IL-2) และ Th-2 (IL-6) มีแนวโน้มลดลงเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ในเพศชายมีการลดลงของ IL-6 อย่างมีนัยสำคัญ และในเพศหญิงการลดลงของ IL-10 จะน้อยกว่าในเพศชาย ด้วยเหตุผลที่ IL-10 ทำหน้าที่เป็นตัวต้านภูมิคุ้มกัน จึงทำให้เพศหญิงมีการลดลงของตัวแปรทางภูมิคุ้มกันอื่น ๆ น้อยกว่าเพศชาย

ฮอร์โมนเพศ (Sex hormones) เป็นปัจจัยที่มีผลต่อทั้งการตอบสนองทางร่างกายและทางภูมิคุ้มกัน และเอสโตรเจน (Estrogen) เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดลักษณะที่แตกต่างกันทางระบบภูมิคุ้มกันได้ ดังนั้นความแตกต่างทางด้านพันธุศาสตร์ที่เฉพาะเจาะจงของแต่ละเพศ รวมทั้งการแสดงออกของรูปแบบฮอร์โมนเพศ และการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบเหล่านี้ในแต่ละช่วงเวลาของอายุอาจจะมีความสัมพันธ์กับเพศในการที่มีอายุยืนได้

Share:

More Posts

Amnion-derived mesenchymal stem cell

ในปัจจุบันศาสตร์ทางด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูสุขภาพ (Regenerative medicine ) ถือเป็นการแพทย์ทางเลือกที่กำลังได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น โดยมีการใช้เซลล์มาช่วยในการบำบัดโรค (cell-based therapy) ควบคู่ไปกับการรักษาแผนปัจจุบัน การใช้ Mesenchymal stem cells (MSCs) เป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจาก MSCs เป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลง (Differentiation) ตัวเองไปเป็นเซลล์ชนิดอื่นได้ เช่น เซลล์ไขมันเซลล์กระดูกเซลล์กระดูกอ่อน เซลล์เส้นประสาท เซลล์ตับ เซลล์ตับอ่อน

การศึกษางานวิจัย “ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการใช้ Mesenchymal stem cells ในการรักษาผู้ป่วยโรค COVID-19 อาการหนักและอาการรุนแรง”ด้วยการทำ systematic review และ meta-analysis

การติดเชื้อ SARS-CoV-2 ส่งผลให้เกิดการตอบสนองของภูมิคุ้มกันของร่างกายทั้ง innate และ adaptive immune respond ซึ่งการติดเชื้อในผู้ป่วยอาการหนักหรืออาการรุนแรงมีการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันในระดับสูงจนเกินไปและไม่สามารถควบคุมได้ เกิดการปลดปล่อยสาร cytokines จำนวนมาก จนเกิด cytokine storm ขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการก่อให้เกิดการอักเสบและความเสียหายต่อเนื้อเยื่อปอดและระบบทางเดินหายใจของผู้ป่วย อาจนำไปสู่ภาวะระบบอวัยวะล้มเหลวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในผู้ป่วยที่อาการหนักหรืออาการรุนแรง มักพบภาวะหายใจลำบาก ระดับของออกซิเจนในเลือดต่ำ อาจส่งผลให้เกิดภาวะทางเดินหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน (acute respiratory distress

มลพิษทางอากาศและความยาวของเทโลเมียร์

มลพิษทางอากาศและความยาวของเทโลเมียร์ : ชนิดบทความการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากวารสารที่มีอาสาสมัครรวม 12,058 คน ผู้แต่ง : Bing Zhao, Ha Q. Vo, Fay H. Johnston, Kazuaki Negishi บทคัดย่อ มีการศึกษาและการรายงานถึงผลกระทบของมลพิษทางอากาศต่อระบบทางเดินหายใจอยู่อย่างมากมายในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามกลไกขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับกลไกการก่อให้เกิดโรคต่างๆ จากมลพิษยังไม่ได้รับการชี้แจงอย่างชัดเจน โดยมลพิษทางอากาศอาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการเร่งกระบวนการชราภาพก่อนวัยอันควร และอาจเป็นสาเหตุของการไปสู่การเกิดโรคทางระบบหัวใจและหลอดเลือด (cardiovascular disease;

การจัดการมะเร็งระยะลุกลาม

#เทคโนโลยีการรักษาโรคมะเร็ง EP.4 #การจัดการมะเร็งระยะลุกลาม โดย นพ.จิรเจษฎ์ สุขสุเพิ่ม อายุรแพทย์ด้านการรักษาโรคมะเร็ง ในตอนที่ผ่านมา เราได้พูดกันถึงเรื่องของ การรักษามะเร็งด้วยวิธีมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้เคมีบำบัด ยามุ่งเป้า ยาปลดเบรกภูมิต้านทาน และภูมิคุ้มกันบำบัดในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งในตอนจบนี้คุณหมอจะมาพูดถึง การสร้างทหารกองพิเศษที่จะมาจัดการกับมะเร็งโดยตรง หรือการรักษาด้วยเซลล์ภูมิคุ้มกันบำบัด จะเป็นอย่างไร มีประโยชน์แค่ไหน เรามาติดตามไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ . ปรึกษาและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคมะเร็งได้ที่ #WincellResearch Tel.

ติดต่อสอบถาม

wincell-research-logo

บริษัท วินเซลล์รีเสิร์ช จำกัด ก่อตั้งโดย ดร.โอฬาร เปี่ยมกุลวนิช และประกอบด้วยทีมแพทย์และนักวิจัยที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชีวภาพและภูมิคุ้มกันวิทยาที่ทันสมัยซึ่งพัฒนาวิธีการเอาชนะโรคที่เกิดจากมะเร็ง

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
จดหมายข่าวของเรา

ส่งข้อมูลข่าวสารสุขภาพที่ดีสู่กล่องจดหมายข่าวของคุณ

Copyright 2020 © Wincell Research | All Rights Reserved |  Privacy policy | Terms of Service

covid