ตั้งครรภ์ยาก เพราะ NK Cells รู้และเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์

ในสังคมปัจจุบันนี้ ด้วยสภาวะที่เร่งรีบ ความเครียด สิ่งแวดล้อมที่มีมลพิษมากมาย ทำให้สังคมคนในเมืองไม่ใช่เพียงแค่ วุ่นวายกับการใช้ชีวิต ยังส่งผลทำให้ครอบครัวยุคใหม่ที่ต้องการมีบุตร ไม่สามารถมีบุตรได้ง่าย หรือแม้แต่ข้อจำกัดทั้งทางเวลา และเศรษฐกิจ จึงทำให้พ่อแม่ยุคใหม่ใช้วิทยาศาสตร์ เข้ามามีส่วนช่วยในการเลือกเพศ หรือแก้ปัญหาการมีบุตรยาก แต่ทำไม เราใช้ทั้งวิธีทางธรรมชาติและวิธีทางวิทยาศาสตร์ แล้ว เกิดสภวะตัวอ่อนหลุด หรือแท้ง ทั้งๆ ที่เราก็แข็งแรง และเตรียมตัวมาอย่างดี ก็เพราะร่างกายเรามีกลไกลอื่นๆ ที่ส่งผลให้เกิดสภาวะแท้ง หรือแท้งได้

            โดยเราคงยอมรับว่า สำหรับการเตรียมตัวตั้งครรภ์ เราเพียงแค่ตรวจเลือด และตรวจร่างกายธรรมดาเพื่อเตรียมความพร้อม แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่เคยตรวจ คือ การตรวจหาปริมาณและคุณภาพ ของ NK cells ทำไมต้องตรวจ ตรวจแล้วบอกอะไร ถ้าเจอความผิดปกติ ควรทำอย่างไรต่อ เพื่อให้เราลดความเสี่ยงจากสภาวะแท้ง หรือ แท้งได้

ตั้งครรภ์ยาก เพราะ NK Cells รู้และเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์

จากการศึกษา ปริมาณ NK cells ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1999 หรือ 23 ปีมาแล้ว ศาสตราจารย์ YAMAMOTO และคณะ แห่งมหาวิทยาลัย Teikyo University School of Medicine, โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งปกติสภาวะแท้ง หรือการแท้งนั้นเป็นกลไกลธรรมชาติที่ไม่ให้ตัวอ่อนที่มีความผิดปกติหรือไม่สมบูรณ์ ตั้งแต่ระดับโครโมโซม เจริญเติบโตในครรภ์ต่อไป แต่การแท้งที่ผิดพลาด คือ สภาวะตัวอ่อนที่สมบูรณ์แท้งหรือ ตัวอ่อนที่มีความผิดปกติกลับเจริญเติบโตได้ต่อ  เป็นเหตุให้ศาสตราจารย์ YAMAMOTO ทำการศึกษาการแท้งกับตัวอ่อนที่มีโครโมโซมปกติ และ ผิดปกติ มีความสัมพันธ์กับกลไกภายใน หรือเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดใด ซึ่งเซลล์เม็ดเลือดขาว เป็นเซลล์หลักที่เกี่ยวข้องกับการแท้ง โดยเฉพาะ เซลล์เม็ดเลือดขาว ชนิด NK cells ที่มีการศึกษามาก่อนหน้านี้ว่าเป็นเซลล์สำคัญเซลล์หนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์และการแท้ง แต่ยังไม่มีใครศึกษาสัดส่วนปริมาณที่มีในกระแสเลือด เพื่อหาความสัมพันธ์ และการศึกษาคือการหา CD56+ NK cells ด้วยวิธี Flow cytometry พบว่า ปริมาณ CD56+ NK cells ของการเกิดสภาวะแท้งในตัวอ่อนปกติ มีปริมาณที่ต่างจาก การแท้งในตัวอ่อนที่ผิดปกติ ดังนั้นสัดส่วน NK cells มีผลต่อการรักษาตัวอ่อนในครรภ์ของแม่นั่นเอง

จากนั้นในปี ค.ศ. 2016 ศาสตราจารย์ Marigoula Varla-Leftherioti ได้ทำการตีพิมพ์ “Natural Killer (NK) Cell Receptors and their Role in Pregnancy and Abortion” ลงในวารสาร Journal of Immunobiology Journal of Immunobiology พบว่า NK cells (dNK CD3-CD56brightCD16dim/-) มีผลต่อการท้องในไตรมาสแรก และศึกษาต่อถึงกลไกลในการเกิดการแท้ง พบว่า KIR Receptors ที่พบใน NK cells และ T lymphocyte นั้น  ส่งผลให้ NK cells ทำลายตัวอ่อนที่ trophoblast (ช่วยให้ตัวอ่อนมีความชุ่มชื่น และเป็นเนื้อเยื่อตัวอ่อนที่จะเจริญไปเป็นรก) เกิดการ lysis ทำให้ตัวอ่อนหลุด และแท้ง

            จากการศึกษาค้นคว้าความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณ NK cells และ กลไกลของ NK cells ที่มีผลต่อการแท้ง แต่ยังไม่สามารถบอกปริมาณค่า Cut off ได้จนปี ค.ศ. 2018 ศาสตราจารย์ Hajar Adib Rad ได้ศึกษาในกลุ่มประชากรอิหร่าน เนื่องจากการแท้งเป็นปัญหาที่พบบ่อยในประเทศ โดยทำการศึกษาจากหญิงตั้งครรภ์ จำนวน 80 คน พบว่า ปริมาณ NK cells ที่ ≥3.4% ( p < 0.015)  จะส่งผลให้เกิดสภาวะเสี่ยงต่อการแท้ง

            ใน ปี ค.ศ. 2020 ศาสตราจารย์ Yu-Han Meng และคณะ ได้ทำการศึกษาสภาวะแท้งซ้ำซ้อนที่เกิดขึ้นในวัยเจริญพันธุ์ ว่าเกิดจาก NK cell ที่อยู่ที่มดลูกถึง 70% จึงเป็นเหตุให้ การมองหาทางที่เราจะสามารถควบคุม หรือ สร้างสภาวะ NK cell ให้สมดุลทั้งปริมาณ และสุขภาพได้อย่างไร

ในปัจจุบัน เราคงคุ้นเคยกับคำว่าเซลล์บำบัด หรือการรักษาด้วยระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ในการรักษาโรคที่ยังหารการรักษาโดยการใช้ยาไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น การใช้เซลล์บำบัดจากไขกระดูก เพื่อรักษาโรคเลือดผิดปกติ เช่น โรคธาลัสซีเมีย หรือมะเร็งเม็ดเลือดขาวก็ตาม ในปี ค.ศ. 2022 ประเทศในยุโรป, อเมริกา, เกาหลี, จีน และ ญี่ปุ่น ได้รุดหน้าไปอย่างรวดเร็วในการใช้เซลล์รักษาผู้ป่วย หรือแม้กระทั้งในกลุ่ม wellness แล้วสำหรับคนที่เตรียมตั้งครรภ์ หรือตั้งครรภ์แล้วมีสภาวะเสี่ยงต่อการแท้ง มีทางเลือกทางด้านนี้ไหม

            ในปี ค.ศ. 2020 ศาสตราจารย์ Carolyn B. Coulam และคณะ แห่งมหาวิทยาลัย Rosalind Franklin University of Medicine and Science, North Chicago, USA ได้อาศัยการรักษาแบบระบบภูมิคุ้มกันด้วยวิธี intralipid administered intravenously ถึงแม้จะเคยมีการศึกษามาก่อนหน้านี้ ว่า ให้ผลของความสำเร็จในการรักษาตัวอ่อนได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่ศาสตราจารย์ Carolyn B. Coulam ได้ไขความลับข้อนี้ และพบว่า การใช้ intralipid administered intravenously ให้ถูกต้องสามารถ ยับยั้ง NK cell ไม่ให้มีบทบาทให้เกิดการแท้งได้

ศาสตราจารย์ Carolyn B. Coulam พบว่า การแท้ง เกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น สภาพร่างกายของแม่เช่น มดลูก, ฮอร์โมน, ภูมิคุ้มกัน, ลิ่มเลือด และความสมบูรณ์ของตัวอ่อน และการใช้การรักษาแบบ intralipid administered intravenously นั้นเหมาะกับใช้กับ NK cells (Cytotoxic) and pro-inflammatory cytokine ดังนั้น ศาสตราจารย์ Carolyn B. Coulam จึงทำการตรวจหาปริมาณ Cytotoxic  NK cell ในเนื้อเยื่อมดลูก พร้อมทั้งหาปริมาร Cytotoxic NK cell ในกระแสเลือด ในผู้หญิงสองกลุ่ม คือ กลุ่มที่มีการตั้งครรภ์ และ กลุ่มไม่มีการตั้งครรภ์  พบว่า ในกลุ่มหญิงที่มีการตั้งครรภ์ได้ต่อเนื่องมีปริมาณ NK cell ในกระแสเลือดและในเนื้อเยื่อมดลูก น้อยกว่าหญิงที่มีการแท้ง

            และพบว่า intralipid สามารถเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ทั้งในสภาวะปกติ และ เพิ่มการฝังตัวของตัวอ่อน(IVF) ลดสภาวะแท้ง จากผลของ NK cells และ pro-inflammatory cytokine แต่ไม่สามารถ รักษาได้ในการแท้งที่เกิดจากสภาวะอื่นเช่น   ฮอร์โมน, ข้อจำกัดทางร่างกายของแม่, ลิ่มเลือด และความสมบูรณ์ของตัวอ่อน

            ดังนั้น ก่อนตั้งครรภ์ หรือฝังตัวอ่อน มาตรวจหาปริมาณ และ คุณภาพ NK cell เพื่อลดความเสี่ยงการแท้งจากการตั้งครรภ์

ปรึกษาและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพได้ที่…

 #WincellResearch

Tel. : 02-3994494-5

Mobile : 095-2541830 , 095-9246223

Line id : cswincell

Email : consults@wincellresearch.com

.

#เทโลเมียร์ #Cancer #ImmuneTherapy #NKCell #NKcellTherapy #WinKCell #WinKCellTherapy #มะเร็ง  #โรคมะเร็ง #ป้องกันโรคมะเร็ง #รักษาโรคมะเร็ง #รักษามะเร็ง #ภูมิคุ้มกันบำบัด #WincellLab #Empire #EmpireHolistic #OlanPiamkulvanich #OranPiamkulvanich  #โอฬารเปี่ยมกุลวนิช

Share:

More Posts

Amnion-derived mesenchymal stem cell

ในปัจจุบันศาสตร์ทางด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูสุขภาพ (Regenerative medicine ) ถือเป็นการแพทย์ทางเลือกที่กำลังได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น โดยมีการใช้เซลล์มาช่วยในการบำบัดโรค (cell-based therapy) ควบคู่ไปกับการรักษาแผนปัจจุบัน การใช้ Mesenchymal stem cells (MSCs) เป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจาก MSCs เป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลง (Differentiation) ตัวเองไปเป็นเซลล์ชนิดอื่นได้ เช่น เซลล์ไขมันเซลล์กระดูกเซลล์กระดูกอ่อน เซลล์เส้นประสาท เซลล์ตับ เซลล์ตับอ่อน

การศึกษางานวิจัย “ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการใช้ Mesenchymal stem cells ในการรักษาผู้ป่วยโรค COVID-19 อาการหนักและอาการรุนแรง”ด้วยการทำ systematic review และ meta-analysis

การติดเชื้อ SARS-CoV-2 ส่งผลให้เกิดการตอบสนองของภูมิคุ้มกันของร่างกายทั้ง innate และ adaptive immune respond ซึ่งการติดเชื้อในผู้ป่วยอาการหนักหรืออาการรุนแรงมีการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันในระดับสูงจนเกินไปและไม่สามารถควบคุมได้ เกิดการปลดปล่อยสาร cytokines จำนวนมาก จนเกิด cytokine storm ขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการก่อให้เกิดการอักเสบและความเสียหายต่อเนื้อเยื่อปอดและระบบทางเดินหายใจของผู้ป่วย อาจนำไปสู่ภาวะระบบอวัยวะล้มเหลวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในผู้ป่วยที่อาการหนักหรืออาการรุนแรง มักพบภาวะหายใจลำบาก ระดับของออกซิเจนในเลือดต่ำ อาจส่งผลให้เกิดภาวะทางเดินหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน (acute respiratory distress

มลพิษทางอากาศและความยาวของเทโลเมียร์

มลพิษทางอากาศและความยาวของเทโลเมียร์ : ชนิดบทความการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากวารสารที่มีอาสาสมัครรวม 12,058 คน ผู้แต่ง : Bing Zhao, Ha Q. Vo, Fay H. Johnston, Kazuaki Negishi บทคัดย่อ มีการศึกษาและการรายงานถึงผลกระทบของมลพิษทางอากาศต่อระบบทางเดินหายใจอยู่อย่างมากมายในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามกลไกขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับกลไกการก่อให้เกิดโรคต่างๆ จากมลพิษยังไม่ได้รับการชี้แจงอย่างชัดเจน โดยมลพิษทางอากาศอาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการเร่งกระบวนการชราภาพก่อนวัยอันควร และอาจเป็นสาเหตุของการไปสู่การเกิดโรคทางระบบหัวใจและหลอดเลือด (cardiovascular disease;

การจัดการมะเร็งระยะลุกลาม

#เทคโนโลยีการรักษาโรคมะเร็ง EP.4 #การจัดการมะเร็งระยะลุกลาม โดย นพ.จิรเจษฎ์ สุขสุเพิ่ม อายุรแพทย์ด้านการรักษาโรคมะเร็ง ในตอนที่ผ่านมา เราได้พูดกันถึงเรื่องของ การรักษามะเร็งด้วยวิธีมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้เคมีบำบัด ยามุ่งเป้า ยาปลดเบรกภูมิต้านทาน และภูมิคุ้มกันบำบัดในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งในตอนจบนี้คุณหมอจะมาพูดถึง การสร้างทหารกองพิเศษที่จะมาจัดการกับมะเร็งโดยตรง หรือการรักษาด้วยเซลล์ภูมิคุ้มกันบำบัด จะเป็นอย่างไร มีประโยชน์แค่ไหน เรามาติดตามไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ . ปรึกษาและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคมะเร็งได้ที่ #WincellResearch Tel.

ติดต่อสอบถาม

wincell-research-logo

บริษัท วินเซลล์รีเสิร์ช จำกัด ก่อตั้งโดย ดร.โอฬาร เปี่ยมกุลวนิช และประกอบด้วยทีมแพทย์และนักวิจัยที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชีวภาพและภูมิคุ้มกันวิทยาที่ทันสมัยซึ่งพัฒนาวิธีการเอาชนะโรคที่เกิดจากมะเร็ง

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
จดหมายข่าวของเรา

ส่งข้อมูลข่าวสารสุขภาพที่ดีสู่กล่องจดหมายข่าวของคุณ

Copyright 2020 © Wincell Research | All Rights Reserved |  Privacy policy | Terms of Service

covid