Services

Facebook
Twitter
LinkedIn

ติดต่อสอบถาม

สเต็มเซลล์จากกระแสเลือด คืออะไร

สเต็มเซลล์จากกระแสเลือด ( Peripheral Blood Stemcell : PBSC )   คือเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือด โดยปกติเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือดจะมีจำนวนน้อยมาก แต่สามารถเพิ่มจำนวนขึ้นได้อย่างมหาศาล ถ้าได้รับการกระตุ้นจากไซโตไคน์ (Cytokines) หรือตัวกระตุ้นการทำงานของไขกระดูกที่เหมาะสม เช่น G-CSF (สารกระตุ้นไขกระดูกซึ่งร่างกายมนุษย์สามารถผลิตได้เองตามธรรมชาติ) หรือเกิดภายหลังการฟื้นตัวของไขกระดูกของผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัด การปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ที่ได้จากกระแสเลือด มีแนวโน้มที่จะปลูกติดเร็วกว่าสเต็มเซลล์จากไขกระดูก  ทั้งนี้เชื่อว่าเกิดจากการที่สเต็มเซลล์จากกระแสเลือดมีการพัฒนามากกว่าสเต็มเซลล์ที่ได้จากไขกระดูก เมื่อพูดถึงการปลูกถ่าย

สเต็มเซลล์ในผู้ป่วย โดยปกติจะหมายถึงการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จากกระแสเลือดในภาวะธรรมชาติ สเต็มเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดเกือบทั้งหมดจะอยู่ในไขกระดูก แต่สามารถใช้ยากระตุ้นให้สเต็มเซลล์ออกจากไขกระดูกมาอยู่ในกระแสเลือดเพื่อทำการเก็บสเต็มเซลล์ได้โดยง่าย

รูปขั้นตอนในการจัดเก็บสเต็มเซลล์เลือดผู้ใหญ่

การนำสเต็มเซลล์ไปใช้ในการรักษาทางคลินิก

การปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด (CD34+) ในการรักษาโรคในปัจจุบัน แบ่งเป็นการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ที่ได้จากบุคคลอื่น (allogeneic) ใช้ในการรักษาโรคในกลุ่มมะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคภูมิคุ้มกันบกพร่องแต่กำเนิด ไขกระดูกฝ่อ ความผิดปกติของระบบเมตาบอลิซึมแต่กำเนิด  และกลุ่มโรคที่การสร้างเม็ดเลือดแดงมีความผิดปกติ  และการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ของผู้ป่วย (autologous) ใช้รักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง multiple myelomas มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ โรคมะเร็งไขกระดูกแบบมัยอีโลมา  โรคภูมิคุ้มกันไวเกิน (autoimmune diseases) ยิ่งไปกว่านั้น วิทยาศาสตร์การแพทย์ในปัจจุบันกำลังพัฒนาการนำสเต็มเซลล์ไปใช้ปฏิวัติวิธีการรักษาดั้งเดิมหลายโรค เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด กล้ามเนื้อหัวใจตาย โรคหลอดเลือดในสมองตีบหรือแตก โรคที่เกี่ยวกับความเสื่อมของเนื้อสมอง โรคเบาหวาน แผลเรื้อรังที่เกิดจากหลอดเลือดแข็งตีบตัน โรคปอดบางชนิด  โรคธาลัสซีเมีย ซึ่งผลการศึกษาประสบความสำเร็จรุดหน้าอย่างรวดเร็วมาก แหล่งที่เหมะสมของสเต็มเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด ที่ไม่ใช่จากตัวอ่อนของมนุษย์ (Embryonic stem cells) ได้แก่ สเต็มเซลล์ในเลือดจากสายสะดือ สเต็มเซลล์จากไขกระดูก และจากกระแสเลือด

ทำไมจึงต้องเก็บสเต็มเซลล์จากเลือดผู้ใหญ่

การทำเคมีบำบัดเป็นกระบวนการที่มีผลระงับการสร้างสเต็มเซลล์ในไขกระดูกและทำให้เซลล์ทั้งหมดที่เติบโตขึ้นมาจากสเต็มเซลล์ถูกหยุดการสร้างไปด้วย การขาดสเต็มเซลล์จะทำให้เกิดภาวะซีด ทำให้เกิดการมีเลือดออกและติดเชื้อในกระแสเลือดซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ การเก็บสเต็มเซลล์และแช่แข็งเอาไว้ก่อนการทำเคมีบำบัดจะทำให้เราสามารถใช้เคมีบำบัดในปริมาณที่มีความเข้มข้นสูงได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากเราสามารถที่จะนำสเต็มเซลล์ที่เก็บไว้นั้นฉีดคืนเข้าไปเพื่อช่วยให้ไขกระดูกหลังการทำเคมีบำบัดฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว การรับสเต็มเซลล์ของเราเองกลับคืนเข้าไปในร่างกายนี้เรียกว่า autologous peripheral blood stem cell transplant

รูป ขั้นตอนในการรับสเต็มเซลล์ของเราเข้าสู่ร่างกาย

นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีผู้ป่วยที่สนใจจะเก็บสเต็มเซลล์โดยที่ยังไม่เกิดโรคหรือภาวะต่างๆ เพื่อจะรักษาความสมบูรณ์ของเซลล์เหล่านั้นไว้ใช้ในอนาคตเมื่อเกิดโรคหรือความผิดปรกติขึ้น การเก็บสเต็มเซลล์ในรูปแบบนี้จะให้ผลที่ดีที่สุดเนื่องจากจะทำให้ได้เซลล์ที่แข็งแรง  ไม่มีโรค ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ ท่านไม่ต้องเสี่ยงต่อการที่สเต็มเซลล์จากผู้อื่นจะถูกปฏิเสธจากระบบภูมิคุ้มกันของท่าน หรือสเต็มเซลล์ผู้อื่นที่ปลูกถ่ายจะทำลายเซลล์ปกติของท่าน เช่นที่เกิดขึ้นกับการรับสเต็มเซลล์จากผู้บริจาค

covid